บทที่ 5
https://pantip.com/forum/new_topic
ความเดิมตอนที่แล้ว
คุณยายใช้ช้อนตักข้าวคลุกเนื้อปลา เทลงกับพื้นตรงหน้า
โอ..ตายแล้ว ทำไมเทอาหารลงพื้นแบบไร้วัฒนธรรมแบบนี้ นี่แมวปิฬาร์แมวในเมืองนะ ไม่ใช่แมวข้างถนนไร้สังกัดจรจัดเสเพล
.......
นั่นเจ้าหง่าวนั่งมองตาปริบๆ ด้วยความอยากกิน แต่แล้วเหมือนจะรู้สถานภาพของตัวเองดี ในที่สุดก็หันไปแทะก้างปลาอย่างเอร็ดอร่อยไม่แพ้คุณยาย ไม่สนใจแมวคู่อาฆาตอีกต่อไป เพราะถือว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในโลกแห่งความเป็นแมว มีความสุขไปกับการแทะหัวปลาก้างปลาเก่า ๆ ตามอัตภาพของความเป็นไอ้คุณหง่าวแมวบ้านนอก ที่กินแบบไม่เลือก เพราะไม่ค่อยได้เลือก อาหารง่ายๆ ก็สามารถกินอย่างอร่อยได้
ปิฬาร์มองเจ้าหง่าว มองคุณยาย มองจานข้าว มองกองข้าวข้างหน้า และเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเป็นแมวแปลกแยกมากขึ้นทุกที เรามันแมวในเมือง ต้องกินจากจานแพง ๆ อาหารอุ่น ๆไม่ค้างคืน จะมากินอาหารบ้านนอกตามพื้นเรือนชานแบบนี้ได้อย่างไร เสียชื่อแมวในเมืองหมด
แต่น้ำเสียงและสายตาอันแสนอบอุ่นของคุณยาย แม้แต่ท่าทางอร่อยกับเศษอาหารของเจ้าหง่าวทำให้ปิฬาร์รู้สึกว้าวุ่นใจเหลือเกิน และวันนี้ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย
เอาล่ะ ยายจ๋า. ปิฬาร์จะกินข้าวกับปลาจวนเน่านี้ให้ดู ไม่เชื่อคอยดู
แมวปิฬาร์กัดฟันกลั้นใจยื่นคอไปกินข้าวคลุกเนื้อปลาบนพื้นข้างหน้า ตายเป็นตาย
“กินเยอะๆ เลยนะจ๊ะ แมวสวย เดี๋ยวไม่พอยายจะแบ่งให้อีก”
เสียงของคุณยายน่าฟังเหลือเกิน ฟังแล้วอบอุ่นไปถึงข้างในหัวใจแมว ใช่แล้ว... เราต้องทำให้ได้ แค่กินอาหารต่ำ ๆ แบบนี้สักวันจะเป็นไรไป แต่อืมม์ ... จะว่าไปจริงมันก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด แม้จะมีกลิ่นบูดไปบ้างก็ไม่เป็นไร เอ๊ะ....ยิ่งเคี้ยวยิ่งกลืนยิ่งอร่อยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อว่าอาหารบ้านนอกจะอร่อยแบบนี้ได้
คุณยายมองมาด้วยประกายตาเต็มไปด้วยความสุขความยินดี เหมือนสายตาของคนเฒ่าคนแก่มองผ่านประสบการณ์ยาวนานแห่งชีวิต เห็นลูกหลานประสบความสำเร็จ ก็มีความสุขความสบายใจ คุณยายกำลังมีความสุขกับการเห็นแมวตัวหนึ่งกินอาหาร ความสุขตามประสาคนแก่คนเฒ่า
และนั่นเป็นอาหารอีกมื้อหนึ่งซึ่งอร่อยไม่แพ้อาหารที่บ้านคุณนายใจดีเลย
เสียงหมาใต้ถุนร้องหงิด ๆ เหมือนดีใจอะไรสักอย่าง ด้วยอาการบ่งบอกว่ามีผู้มาเยือน
ซอมบี้ตัวหนึ่งเดินนำหน้าคนหนุ่มวัยรักนักศึกษา ตรงเข้ามายังลานดินหน้าบ้านอย่างอ่อนแรง ซอมบี้ความจริงเป็นชายชราคนที่วิ่งไล่เด็กหนุ่มนักศึกษาสติแตกสองคนกลัวผีแตงโม บริเวณถนนใหญ่โดยไม่ตั้งใจนั่นเอง
ไอ้หนุ่มผมยาวจูงรถจักรยานยนต์มาด้วยอาการปางตาย จนลูกน้องตัวดีก็กำลังแบกถุงปุ๋ยบรรจุถ่านไม้มาด้วยอาการปางตายไม่แพ้กัน กว่าจะพูดกันรู้เรื่องทั้งสองฝ่ายก็วิ่งกันจนตับแทบแตก ก่อนจะตกลงได้ว่าใครจะเป็นฝ่ายจูงจักรยานยนต์ยางแบน กลับมาปะยางในหมู่บ้าน ดีกว่าจะจูงไปตายเอาดาบหน้าบนเส้นทางสายวัยรุ่น
“เอาละ ถึงบ้านแล้ว....”
เสียงของคุณตาซอมบี้ บอกกับหนุ่มนักศึกษาทั้งสองอย่างเหนื่อยอ่อน ชี้มือไปใต้ถุนบ้าน “เอาถ่านไปเก็บไว้ใต้ถุนบ้าน รถจอดไว้นี่ก่อน กินข้าวกินน้ำเสร็จเดี๋ยวจะพาไปร้านซ่อม พวกเอ็งก็น่าเตะเหลือเกิน จู่ ๆ ก็วิ่งหนีกันตับแลบ ดีนะว่าตาเป็นคนแข็งแรงเตะแตงโมทุกวัน ไม่งั้นลิ้นห้อยตายไปแล้ว แหม... มาหาว่าเราเป็นซอมบี้ซอมบ้าอะไรก็ไม่รู้ เด็กสมัยนี้จริง ๆ เลย”
ไอ้หนุ่มผมยาวพอวางมือออกจากจักรยานยนต์เจ้ากรรมได้ ก็ทำท่าเหมือนได้เกิดใหม่ ไม่คิดว่าเจ้าพาหนะคันโปรดคันนี้ เวลาเกเรจะหนักหนาสาหัสเอาเรื่อง
“ลิซ่าหนอลิซ่า....ทำไมเธอทำกับพี่ได้ขนาดนี้...” หนุ่มผมยาวทรุดตัวลงลูบ ๆ คลำ ๆ รถจักรยานยนต์คู่ชีพไปมาอย่างเป็นห่วง
“อะไรของเองวะ ไอ้หนุ่ม ลิซ่งลิซ่าอะไร”
ชายชรามองหน้าไอ้หนุ่มผมยาวอย่างสงสัย ส่วนลูกน้องคนขยันหลังจากแบกถ่านไปวางเก็บใว้ใต้ถุนบ้านแล้ว ก็มาตรวจดูอาการลิซ่าอีกคน
“ลิซ่าคือชื่อของเธอครับ”
“เธอไหน เธออะไรวะ”
“ก็คือรถคันนี้พวกผมตั้งชื่อให้ว่าลิซ่าครับ”
ชายชราอ้าปากค้างจนเห็นฟันที่เหลืออยู่ไม่กี่ซี่ แล้วหัวเราะก๊ากออกมาเสียงดัง พูดไปหัวเราะไปว่า
“พวกเอ็งท่าจะประสาท พวกคนเรียนสูงมันเพี้ยนแบบนี้หมดหรือเปล่าวะ เออ ...ชักเป็นห่วงนังหนูอ้อยใจลูกสาวป้าข้างบ้านเสียแล้ว ทะลึ่งไปเรียนในเมือง กลับมาจะเป็นบ้าเป็นบอ แบบพวกเอ็งหรือเปล่านี่”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยลุง แหม...ก็พวกเรารักเธอนี่ครับ เธอพาเราไปทั่วทุกที่ ผ่านไปบนถนนสายวัยรุ่นที่ไม่รู้จักจบสิ้น วิ่งไปบนเส้นทางแห่งความฝันไม่รู้จบของวัยหนุ่ม โลดลิ่วไปสู่ขอบหัวใจสีชมพูของสาวทั้งหลาย อ้าว....ไอ้น้อย นี่แกอย่ามาจับบั้นท้ายลิซ่า แกจะแต๊ะอั๋งลิซ่าเหรอ เดี๋ยวมีถีบ....”
ประโยคหลังไอ้หนุ่มผมยาวหันไปตวาดรุ่นน้องผู้กำลังลูบคลำท้ายรถอยู่
“เปล่าพี่ป้อม..เปล่าตะอั๋ง..” ลูกน้องตัวดีปฏิเสธเสียงหลง ก่อนชี้แจงว่า
“ผมเพียงแต่ตรวจดูว่าเธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่าแค่นั้นเอง เห็นเธอสกปรกมอมมอมเลยคิดว่าเย็นนี้จะพาเธออาบน้ำ”
“ไอ้ลามกโรคจิต.... นี่แนะ!” บาทาไร้เงาลูกพี่ถีบเข้าให้จนลูกน้องตัวดีก้นจ้ำเบ้า
“แกมันลามกจริง ๆ ถ้าไม่ปรับปรุงความประพฤติฉันจะไม่ให้แกซ้อนท้ายลิซ่าอีก เดี๋ยวบั้นท้ายเธอเสียหมด อย่าให้จับได้นะว่าแกแอบลูบคลำลิซ่า ตอนซ้อนท้ายเธอ หวงโว้ย!”
“พวกแกเลิกบ้าได้แล้ว โน่น ไปเอาน้ำฝนเย็น ๆ ตรงนอกชานบนบ้านมากินกัน ขันเขินก็ถามยายแกดู คอแห้งจะตายอยู่แล้ว เดี๋ยวข้าจะหาอะไรให้รองท้อง”
เสียงชายชราขัดขึ้นอย่างรำคาญกับอัจฉริยภาพของหนุ่มนักศึกษาทั้งคู่ ชี้มือสั่งให้ขึ้นไปบนเรือน
“ทำใจดี ๆ นะครับ ลิซ่า อีกไม่นานเธอก็จะเป็นปรกติแล้ว”
ไอ้หนุ่มผมยาวลูบไล้ลิซ่าอย่างอาลัยอาวรณ์ราวกับจะจากกันเป็นชาติ ก่อนหันไปพยักหน้ากับลูกน้อง พากันขึ้นบันไดอย่างระมัดระวังเพราะไม่คุ้นเคยกับบันไดบ้านนอก
คู่กรณีชนวนแห่งความหึงหวงยุติศึกชั่วคราว ตอนนี้น้ำเย็น ๆ คือสิ่งสำคัญจนทำให้ลืมลิซ่าไปชั่วขณะ หนุ่มทั้งสองพากันมองเห็นน้ำเย็นในขันสวย ๆ คงฉ่ำชื้นชื่นใจ
พอดีกับแมวปิฬาร์เดินตรงมาตามเสียงเอะอะ โผล่หน้าลงมาดูตรงบันใด
“อ๊าก.......!แมวผีแตงโม”
ชายชราไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไอ้หนุ่มสองคนที่กำลังเดินจะขึ้นบ้านไป จู่ ๆ ก็พากันร้องเสียงหลง ฟังไม่ได้ศัพท์ แหกปากโวยวายแล้วพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง ทิ้งให้ลิซ่าคอเอียง จอดทิ้งเอาไว้อย่างเดียวดาย
เย็นวันนั้น หลังจากไปทักทายครอบครัวของแมวมะเหมี่ยวตามประสาแมวที่มีน้ำใจ ปิฬาร์ก็ปีนไปตามหลังคาบ้านต่าง ๆ ตามวิสัยแมวซึ่งมีความอยากรู้อยากเห็นแบบทศนิยมไม่รู้จบ ความอยากรู้อยากเห็นดูจะเป็นนิสัยของแมวทุกสัญชาติ จนมาถึงบ้านของคุณตาคนเผาถ่านผู้ทำให้นักศึกษาไฟแรงสองหนุ่มรุ่นพี่รุ่นน้องขวัญกระเจิงมาแล้วตอนกลางวัน ก็เห็นว่าบริเวณนอกชานบ้าน กำลังรายการตั้งวงกินข้าวระหว่างเจ้าของบ้านและแขกผู้มาเยือนอยู่พอดี
“บ้านป่าบ้านดงคงไม่มีอะไรดีๆ ต้อนรับพวกเองนะหลานชาย” คุณตาบอก ขณะช่วยคู่ชีวิตวัยดึกยกข้าวปลาอาหารมาวางกลางวง ปูด้วยเสื่อผืนใหญ่ ต้อนรับสองหนุ่มนักศึกษาซึ่งตอนนี้ดูสดชื่นขึ้นมาก เพราะเพิ่งอาบน้ำมาหยกๆ ทั้งคู่อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดแบบสบายกาย
“ไม่เป็นไรครับคุณตา” ไอ้หนุ่มผมยาวรุ่นพี่เอ่ยขึ้นด้วยเสียงจริงจังหนักแน่น แววตามุ่งมั่นจริงจัง “ผมเราเป็นวัยรุ่นไฟแรง ผู้ผ่านถนนสายวัยรุ่นมาโชกโชน เผชิญหน้าความยากลำบากแบบตาไม่กะพริบ ผมตั้งใจแล้วว่าจะพาพรรคพวกมาหาเสียง เอ้ย...มาพัฒนาที่นี่ตามโครงการของพวกเรา ผมเล็งเห็นแล้วว่าหมู่บ้านนี้ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อให้พวกพ่อแม่พี่น้อง.....”
“พอแล้วไอ้หลาน....พูดเป็นพวก สอสอ ไปได้ รำคาญ” คุณตาโบกมือด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนรินน้ำขุ่น ๆ ในขวดเก่าเก็บลงในแก้วพลาสติกส่งให้ผู้มาเยือนไฟแรง
“พวกเองพูดเหมือนพวกผู้แทนมาหาเสียงเลย เอ้า...นี่ลองอะไรแก้พูดมากก่อน”
“อะไรหรือครับ” เจ้าหนุ่มผมยาวมองอย่างสงสัย คุณตาหัวเราะเสียงดังพลางบอกว่า
“ของดีเลยล่ะไอ้หนุ่ม....ยาดีดื่มแล้วขึงขังแข็งแรง”
หนุ่มผมยาวรีรอครู่หนึ่ง และด้วยความกลัวที่จะเสียชื่อสถาบัน(ทั้งที่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันตรงไหน) เลยตัดสินใจยกแก้วขึ้นซดรวดเดียวหมดแก้ว แล้วหนุ่มนักศึกษาชาวกรุงก็นั่งคอแข็งลืมตาโพลง ทำเอาหนุ่มรุ่นน้องซึ่งนั่งวิเคราะห์สถานการณ์อยู่ร้องถามอย่างสงสัย
“เป็นอะไรครับพี่ป้อม”
หนุ่มรุ่นพี่กลืนน้ำลาย ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ก่อนหันไปบอกคุณตาว่า “รินมาอีกสงสักแก้วสิครับ มันวิเศษสุดยอดมาก”
“ติดใจล่ะสิ...” คุณตายิ้มกริ่มอย่างพอใจ จัดการรินน้ำวิเศษที่ว่าลงแก้วส่งให้แต่โดยดี หนุ่มรุ่นพี่ตบบ่ารุ่นน้องดังฉาด พลางยื่นแก้วให้ ร้องบอกเสียงหนักแน่น
“เอาเลยไอ้น้อย ซัดครั้งเดียวให้หมด อย่าให้เสียชื่อสถาบัน”
เมื่อลูกพี่บอกแบบนั้น เพื่อรักษาความเป็นลูกน้องที่ดี เพื่อชื่อเสียงของสถาบัน เด็กหนุ่มผู้ว่านอนสอนง่ายจึงยกน้ำในแก้วซดรวดเดียวหมดแก้วตามแบบฉบับที่ลูกพี่กระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง และทันใดนั้นเขาก็นั่งตัวแข็งลืมตาโพลงไปอีกคน
“เป็นไง..” ลูกพี่ถามด้วยสีหน้าท่าทางมีเลศนัย รุ่นน้องมองหน้าลูกพี่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยปากถามปากคอสั่น
“มันน้ำอะไรกันหรือครับพี่ป้อม”
“เหล้าป่าดองยาไงล่ะ เจ้าเซ่อ”
พูดยังไม่ทันขาดคำหนุ่มรุ่นน้องก็ร้องเสียงหลง วิ่งไปโก่งคออาเจียนตรงริมนอกชาน หัวแทบทิ่มตกลงไปข้างล่างท่ามกลางเสียงลูกพี่ซึ่งหัวเราะอย่างพอใจในผลงานระดับคลาสสิกของตนเอง
“มันอะไรกันวะ...ทำไมดื่มปุ๊บเมาปั๊บเร็วขนาดนั้นวะ” คุณตาถามอย่างสงสัยในอาการอ้วกสายฟ้าแลบของเจ้าน้อย ลูกพี่ผมยาวตอบพลางหัวเราะพลางว่า
“เจ้าน้อยมันไม่เคยดื่มเหล้ามาก่อนเลยในชีวิตครับ หลอกล่ออย่างไรก็ไม่ดื่ม แต่คราวนี้มาเจอเหล้าดองยา มันไม่รู้จัก เลยซัดเข้าไปเต็มแก้ว มันบอกว่าเหล้าแก้วแรกที่มันดื่มในชีวิต จะเป็นเหล้ามงคลในวันแต่งงานส่งตัวเข้าเรือนหอเท่านั้นครับ ดังนั้นมันจึงรักษาพรหมจารีย์ต่อของมึนเมาทั้งหลายทั้งปวงไว้ได้ตลอดมา…แต่แล้วความบริสุทธิ์ต่อศีลข้อที่ 5 ของมันก็มีสูญเสียวันนี้เอง”

.
แมวปิฬาร์.........6 (ลิซ่า)
https://pantip.com/forum/new_topic
ความเดิมตอนที่แล้ว
คุณยายใช้ช้อนตักข้าวคลุกเนื้อปลา เทลงกับพื้นตรงหน้า
โอ..ตายแล้ว ทำไมเทอาหารลงพื้นแบบไร้วัฒนธรรมแบบนี้ นี่แมวปิฬาร์แมวในเมืองนะ ไม่ใช่แมวข้างถนนไร้สังกัดจรจัดเสเพล
.......
นั่นเจ้าหง่าวนั่งมองตาปริบๆ ด้วยความอยากกิน แต่แล้วเหมือนจะรู้สถานภาพของตัวเองดี ในที่สุดก็หันไปแทะก้างปลาอย่างเอร็ดอร่อยไม่แพ้คุณยาย ไม่สนใจแมวคู่อาฆาตอีกต่อไป เพราะถือว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในโลกแห่งความเป็นแมว มีความสุขไปกับการแทะหัวปลาก้างปลาเก่า ๆ ตามอัตภาพของความเป็นไอ้คุณหง่าวแมวบ้านนอก ที่กินแบบไม่เลือก เพราะไม่ค่อยได้เลือก อาหารง่ายๆ ก็สามารถกินอย่างอร่อยได้
ปิฬาร์มองเจ้าหง่าว มองคุณยาย มองจานข้าว มองกองข้าวข้างหน้า และเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเป็นแมวแปลกแยกมากขึ้นทุกที เรามันแมวในเมือง ต้องกินจากจานแพง ๆ อาหารอุ่น ๆไม่ค้างคืน จะมากินอาหารบ้านนอกตามพื้นเรือนชานแบบนี้ได้อย่างไร เสียชื่อแมวในเมืองหมด
แต่น้ำเสียงและสายตาอันแสนอบอุ่นของคุณยาย แม้แต่ท่าทางอร่อยกับเศษอาหารของเจ้าหง่าวทำให้ปิฬาร์รู้สึกว้าวุ่นใจเหลือเกิน และวันนี้ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย
เอาล่ะ ยายจ๋า. ปิฬาร์จะกินข้าวกับปลาจวนเน่านี้ให้ดู ไม่เชื่อคอยดู
แมวปิฬาร์กัดฟันกลั้นใจยื่นคอไปกินข้าวคลุกเนื้อปลาบนพื้นข้างหน้า ตายเป็นตาย
“กินเยอะๆ เลยนะจ๊ะ แมวสวย เดี๋ยวไม่พอยายจะแบ่งให้อีก”
เสียงของคุณยายน่าฟังเหลือเกิน ฟังแล้วอบอุ่นไปถึงข้างในหัวใจแมว ใช่แล้ว... เราต้องทำให้ได้ แค่กินอาหารต่ำ ๆ แบบนี้สักวันจะเป็นไรไป แต่อืมม์ ... จะว่าไปจริงมันก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด แม้จะมีกลิ่นบูดไปบ้างก็ไม่เป็นไร เอ๊ะ....ยิ่งเคี้ยวยิ่งกลืนยิ่งอร่อยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อว่าอาหารบ้านนอกจะอร่อยแบบนี้ได้
คุณยายมองมาด้วยประกายตาเต็มไปด้วยความสุขความยินดี เหมือนสายตาของคนเฒ่าคนแก่มองผ่านประสบการณ์ยาวนานแห่งชีวิต เห็นลูกหลานประสบความสำเร็จ ก็มีความสุขความสบายใจ คุณยายกำลังมีความสุขกับการเห็นแมวตัวหนึ่งกินอาหาร ความสุขตามประสาคนแก่คนเฒ่า
และนั่นเป็นอาหารอีกมื้อหนึ่งซึ่งอร่อยไม่แพ้อาหารที่บ้านคุณนายใจดีเลย
เสียงหมาใต้ถุนร้องหงิด ๆ เหมือนดีใจอะไรสักอย่าง ด้วยอาการบ่งบอกว่ามีผู้มาเยือน
ซอมบี้ตัวหนึ่งเดินนำหน้าคนหนุ่มวัยรักนักศึกษา ตรงเข้ามายังลานดินหน้าบ้านอย่างอ่อนแรง ซอมบี้ความจริงเป็นชายชราคนที่วิ่งไล่เด็กหนุ่มนักศึกษาสติแตกสองคนกลัวผีแตงโม บริเวณถนนใหญ่โดยไม่ตั้งใจนั่นเอง
ไอ้หนุ่มผมยาวจูงรถจักรยานยนต์มาด้วยอาการปางตาย จนลูกน้องตัวดีก็กำลังแบกถุงปุ๋ยบรรจุถ่านไม้มาด้วยอาการปางตายไม่แพ้กัน กว่าจะพูดกันรู้เรื่องทั้งสองฝ่ายก็วิ่งกันจนตับแทบแตก ก่อนจะตกลงได้ว่าใครจะเป็นฝ่ายจูงจักรยานยนต์ยางแบน กลับมาปะยางในหมู่บ้าน ดีกว่าจะจูงไปตายเอาดาบหน้าบนเส้นทางสายวัยรุ่น
“เอาละ ถึงบ้านแล้ว....”
เสียงของคุณตาซอมบี้ บอกกับหนุ่มนักศึกษาทั้งสองอย่างเหนื่อยอ่อน ชี้มือไปใต้ถุนบ้าน “เอาถ่านไปเก็บไว้ใต้ถุนบ้าน รถจอดไว้นี่ก่อน กินข้าวกินน้ำเสร็จเดี๋ยวจะพาไปร้านซ่อม พวกเอ็งก็น่าเตะเหลือเกิน จู่ ๆ ก็วิ่งหนีกันตับแลบ ดีนะว่าตาเป็นคนแข็งแรงเตะแตงโมทุกวัน ไม่งั้นลิ้นห้อยตายไปแล้ว แหม... มาหาว่าเราเป็นซอมบี้ซอมบ้าอะไรก็ไม่รู้ เด็กสมัยนี้จริง ๆ เลย”
ไอ้หนุ่มผมยาวพอวางมือออกจากจักรยานยนต์เจ้ากรรมได้ ก็ทำท่าเหมือนได้เกิดใหม่ ไม่คิดว่าเจ้าพาหนะคันโปรดคันนี้ เวลาเกเรจะหนักหนาสาหัสเอาเรื่อง
“ลิซ่าหนอลิซ่า....ทำไมเธอทำกับพี่ได้ขนาดนี้...” หนุ่มผมยาวทรุดตัวลงลูบ ๆ คลำ ๆ รถจักรยานยนต์คู่ชีพไปมาอย่างเป็นห่วง
“อะไรของเองวะ ไอ้หนุ่ม ลิซ่งลิซ่าอะไร”
ชายชรามองหน้าไอ้หนุ่มผมยาวอย่างสงสัย ส่วนลูกน้องคนขยันหลังจากแบกถ่านไปวางเก็บใว้ใต้ถุนบ้านแล้ว ก็มาตรวจดูอาการลิซ่าอีกคน
“ลิซ่าคือชื่อของเธอครับ”
“เธอไหน เธออะไรวะ”
“ก็คือรถคันนี้พวกผมตั้งชื่อให้ว่าลิซ่าครับ”
ชายชราอ้าปากค้างจนเห็นฟันที่เหลืออยู่ไม่กี่ซี่ แล้วหัวเราะก๊ากออกมาเสียงดัง พูดไปหัวเราะไปว่า
“พวกเอ็งท่าจะประสาท พวกคนเรียนสูงมันเพี้ยนแบบนี้หมดหรือเปล่าวะ เออ ...ชักเป็นห่วงนังหนูอ้อยใจลูกสาวป้าข้างบ้านเสียแล้ว ทะลึ่งไปเรียนในเมือง กลับมาจะเป็นบ้าเป็นบอ แบบพวกเอ็งหรือเปล่านี่”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยลุง แหม...ก็พวกเรารักเธอนี่ครับ เธอพาเราไปทั่วทุกที่ ผ่านไปบนถนนสายวัยรุ่นที่ไม่รู้จักจบสิ้น วิ่งไปบนเส้นทางแห่งความฝันไม่รู้จบของวัยหนุ่ม โลดลิ่วไปสู่ขอบหัวใจสีชมพูของสาวทั้งหลาย อ้าว....ไอ้น้อย นี่แกอย่ามาจับบั้นท้ายลิซ่า แกจะแต๊ะอั๋งลิซ่าเหรอ เดี๋ยวมีถีบ....”
ประโยคหลังไอ้หนุ่มผมยาวหันไปตวาดรุ่นน้องผู้กำลังลูบคลำท้ายรถอยู่
“เปล่าพี่ป้อม..เปล่าตะอั๋ง..” ลูกน้องตัวดีปฏิเสธเสียงหลง ก่อนชี้แจงว่า
“ผมเพียงแต่ตรวจดูว่าเธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่าแค่นั้นเอง เห็นเธอสกปรกมอมมอมเลยคิดว่าเย็นนี้จะพาเธออาบน้ำ”
“ไอ้ลามกโรคจิต.... นี่แนะ!” บาทาไร้เงาลูกพี่ถีบเข้าให้จนลูกน้องตัวดีก้นจ้ำเบ้า
“แกมันลามกจริง ๆ ถ้าไม่ปรับปรุงความประพฤติฉันจะไม่ให้แกซ้อนท้ายลิซ่าอีก เดี๋ยวบั้นท้ายเธอเสียหมด อย่าให้จับได้นะว่าแกแอบลูบคลำลิซ่า ตอนซ้อนท้ายเธอ หวงโว้ย!”
“พวกแกเลิกบ้าได้แล้ว โน่น ไปเอาน้ำฝนเย็น ๆ ตรงนอกชานบนบ้านมากินกัน ขันเขินก็ถามยายแกดู คอแห้งจะตายอยู่แล้ว เดี๋ยวข้าจะหาอะไรให้รองท้อง”
เสียงชายชราขัดขึ้นอย่างรำคาญกับอัจฉริยภาพของหนุ่มนักศึกษาทั้งคู่ ชี้มือสั่งให้ขึ้นไปบนเรือน
“ทำใจดี ๆ นะครับ ลิซ่า อีกไม่นานเธอก็จะเป็นปรกติแล้ว”
ไอ้หนุ่มผมยาวลูบไล้ลิซ่าอย่างอาลัยอาวรณ์ราวกับจะจากกันเป็นชาติ ก่อนหันไปพยักหน้ากับลูกน้อง พากันขึ้นบันไดอย่างระมัดระวังเพราะไม่คุ้นเคยกับบันไดบ้านนอก
คู่กรณีชนวนแห่งความหึงหวงยุติศึกชั่วคราว ตอนนี้น้ำเย็น ๆ คือสิ่งสำคัญจนทำให้ลืมลิซ่าไปชั่วขณะ หนุ่มทั้งสองพากันมองเห็นน้ำเย็นในขันสวย ๆ คงฉ่ำชื้นชื่นใจ
พอดีกับแมวปิฬาร์เดินตรงมาตามเสียงเอะอะ โผล่หน้าลงมาดูตรงบันใด
“อ๊าก.......!แมวผีแตงโม”
ชายชราไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไอ้หนุ่มสองคนที่กำลังเดินจะขึ้นบ้านไป จู่ ๆ ก็พากันร้องเสียงหลง ฟังไม่ได้ศัพท์ แหกปากโวยวายแล้วพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง ทิ้งให้ลิซ่าคอเอียง จอดทิ้งเอาไว้อย่างเดียวดาย
เย็นวันนั้น หลังจากไปทักทายครอบครัวของแมวมะเหมี่ยวตามประสาแมวที่มีน้ำใจ ปิฬาร์ก็ปีนไปตามหลังคาบ้านต่าง ๆ ตามวิสัยแมวซึ่งมีความอยากรู้อยากเห็นแบบทศนิยมไม่รู้จบ ความอยากรู้อยากเห็นดูจะเป็นนิสัยของแมวทุกสัญชาติ จนมาถึงบ้านของคุณตาคนเผาถ่านผู้ทำให้นักศึกษาไฟแรงสองหนุ่มรุ่นพี่รุ่นน้องขวัญกระเจิงมาแล้วตอนกลางวัน ก็เห็นว่าบริเวณนอกชานบ้าน กำลังรายการตั้งวงกินข้าวระหว่างเจ้าของบ้านและแขกผู้มาเยือนอยู่พอดี
“บ้านป่าบ้านดงคงไม่มีอะไรดีๆ ต้อนรับพวกเองนะหลานชาย” คุณตาบอก ขณะช่วยคู่ชีวิตวัยดึกยกข้าวปลาอาหารมาวางกลางวง ปูด้วยเสื่อผืนใหญ่ ต้อนรับสองหนุ่มนักศึกษาซึ่งตอนนี้ดูสดชื่นขึ้นมาก เพราะเพิ่งอาบน้ำมาหยกๆ ทั้งคู่อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดแบบสบายกาย
“ไม่เป็นไรครับคุณตา” ไอ้หนุ่มผมยาวรุ่นพี่เอ่ยขึ้นด้วยเสียงจริงจังหนักแน่น แววตามุ่งมั่นจริงจัง “ผมเราเป็นวัยรุ่นไฟแรง ผู้ผ่านถนนสายวัยรุ่นมาโชกโชน เผชิญหน้าความยากลำบากแบบตาไม่กะพริบ ผมตั้งใจแล้วว่าจะพาพรรคพวกมาหาเสียง เอ้ย...มาพัฒนาที่นี่ตามโครงการของพวกเรา ผมเล็งเห็นแล้วว่าหมู่บ้านนี้ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อให้พวกพ่อแม่พี่น้อง.....”
“พอแล้วไอ้หลาน....พูดเป็นพวก สอสอ ไปได้ รำคาญ” คุณตาโบกมือด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนรินน้ำขุ่น ๆ ในขวดเก่าเก็บลงในแก้วพลาสติกส่งให้ผู้มาเยือนไฟแรง
“พวกเองพูดเหมือนพวกผู้แทนมาหาเสียงเลย เอ้า...นี่ลองอะไรแก้พูดมากก่อน”
“อะไรหรือครับ” เจ้าหนุ่มผมยาวมองอย่างสงสัย คุณตาหัวเราะเสียงดังพลางบอกว่า
“ของดีเลยล่ะไอ้หนุ่ม....ยาดีดื่มแล้วขึงขังแข็งแรง”
หนุ่มผมยาวรีรอครู่หนึ่ง และด้วยความกลัวที่จะเสียชื่อสถาบัน(ทั้งที่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันตรงไหน) เลยตัดสินใจยกแก้วขึ้นซดรวดเดียวหมดแก้ว แล้วหนุ่มนักศึกษาชาวกรุงก็นั่งคอแข็งลืมตาโพลง ทำเอาหนุ่มรุ่นน้องซึ่งนั่งวิเคราะห์สถานการณ์อยู่ร้องถามอย่างสงสัย
“เป็นอะไรครับพี่ป้อม”
หนุ่มรุ่นพี่กลืนน้ำลาย ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ก่อนหันไปบอกคุณตาว่า “รินมาอีกสงสักแก้วสิครับ มันวิเศษสุดยอดมาก”
“ติดใจล่ะสิ...” คุณตายิ้มกริ่มอย่างพอใจ จัดการรินน้ำวิเศษที่ว่าลงแก้วส่งให้แต่โดยดี หนุ่มรุ่นพี่ตบบ่ารุ่นน้องดังฉาด พลางยื่นแก้วให้ ร้องบอกเสียงหนักแน่น
“เอาเลยไอ้น้อย ซัดครั้งเดียวให้หมด อย่าให้เสียชื่อสถาบัน”
เมื่อลูกพี่บอกแบบนั้น เพื่อรักษาความเป็นลูกน้องที่ดี เพื่อชื่อเสียงของสถาบัน เด็กหนุ่มผู้ว่านอนสอนง่ายจึงยกน้ำในแก้วซดรวดเดียวหมดแก้วตามแบบฉบับที่ลูกพี่กระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง และทันใดนั้นเขาก็นั่งตัวแข็งลืมตาโพลงไปอีกคน
“เป็นไง..” ลูกพี่ถามด้วยสีหน้าท่าทางมีเลศนัย รุ่นน้องมองหน้าลูกพี่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยปากถามปากคอสั่น
“มันน้ำอะไรกันหรือครับพี่ป้อม”
“เหล้าป่าดองยาไงล่ะ เจ้าเซ่อ”
พูดยังไม่ทันขาดคำหนุ่มรุ่นน้องก็ร้องเสียงหลง วิ่งไปโก่งคออาเจียนตรงริมนอกชาน หัวแทบทิ่มตกลงไปข้างล่างท่ามกลางเสียงลูกพี่ซึ่งหัวเราะอย่างพอใจในผลงานระดับคลาสสิกของตนเอง
“มันอะไรกันวะ...ทำไมดื่มปุ๊บเมาปั๊บเร็วขนาดนั้นวะ” คุณตาถามอย่างสงสัยในอาการอ้วกสายฟ้าแลบของเจ้าน้อย ลูกพี่ผมยาวตอบพลางหัวเราะพลางว่า
“เจ้าน้อยมันไม่เคยดื่มเหล้ามาก่อนเลยในชีวิตครับ หลอกล่ออย่างไรก็ไม่ดื่ม แต่คราวนี้มาเจอเหล้าดองยา มันไม่รู้จัก เลยซัดเข้าไปเต็มแก้ว มันบอกว่าเหล้าแก้วแรกที่มันดื่มในชีวิต จะเป็นเหล้ามงคลในวันแต่งงานส่งตัวเข้าเรือนหอเท่านั้นครับ ดังนั้นมันจึงรักษาพรหมจารีย์ต่อของมึนเมาทั้งหลายทั้งปวงไว้ได้ตลอดมา…แต่แล้วความบริสุทธิ์ต่อศีลข้อที่ 5 ของมันก็มีสูญเสียวันนี้เอง”